9 ร้านคาเฟ่สไตล์แคมปิ้ง ยิ่งถ่ายรูปยิ่งคูล ไม่ไปไม่ได้แล้ว

goodcoffeetime » 9 ร้านคาเฟ่สไตล์แคมปิ้ง ยิ่งถ่ายรูปยิ่งคูล ไม่ไปไม่ได้แล้ว

มีนาคม 11, 2022
12:00 am

เดี๋ยวนี้เวลาไปนั่งคาเฟ่ร้านไหน เราก็จะเห็นกลุ่มเพื่อนสาวพกกล้องมาถ่ายรูปเก๋ ๆ กันที่ร้านด้วยเสมอ การนั่งร้านคาเฟ่สมัยนี้จึงเป็นมากกว่าการมานั่งชิลผ่อนคลาย หากแต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ ซึ่งเดี๋ยวนี้ร้านคาเฟ่บางแห่งก็มีธีมการตกแต่งไม่เหมือนใคร เพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความเบื่อหน่าย ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราอยากขอแนะนำร้านคาเฟ่สไตล์แคมปิ้ง งานนี้เห็นทีเรียกยอดไลก์กันรัว ๆ

1. Kamaboko Coffee Camp กรุงเทพฯ

ร้านคาเฟ่ที่กำลังฮอตฮิตติดกระแสลมบน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักจากร้านคาเฟ่ที่ไหน เสน่ห์ของที่นี่คือการจำลองฟีลการแคมปิ้งมาตั้งตรงลานสนามหญ้า ยิ่งถ้าวันไหนลมเย็น ๆ แดดไม่แรง ยิ่งทำให้ที่นี่น่านั่งมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว มากมายด้วยเมนูกาแฟและเครื่องดื่ม non-coffee ตลอดจนขนมกินเล่นต่าง ๆ มาสั่งกินให้พอกิ๊บเก๋ เรียกว่าถ่ายรูปก็เพลิน หรือจะนั่งชิลก็งานดีไม่แพ้กัน

2. Bootcamp Café กรุงเทพฯ

อีกหนึ่งร้านคาเฟ่สุดเก๋ย่านชานเมือง ใครได้มาเห็นบรรยากาศร้านนี้เข้าละก็ จะต้องร้องกรี๊ดให้กับความน่ารัก ทั้งในส่วนของการตกแต่ง ที่ให้ฟีลเหมือนว่าออกแคมปิ้งกับเพื่อน ๆ มีอุปกรณ์พร้อม ทั้งเต็นท์ ผ้าปูปิกนิก เก้าอี้สนาม จัดวางไว้พร้อมรอให้ถ่ายรูปด้วยเก๋ ๆ หรือในส่วนของ Indoor ก็นั่งตากแอร์สบาย ๆ มากมายด้วยเมนูเครื่องดื่ม ขนมนมเนย หน้าตาน่ากินและพ่วงด้วยความอร่อย เหมาะเป็นจุดเช็กอินของสายคาเฟ่ที่รักการถ่ายรูปมาก ๆ

ช่องทางการสั่ง : Line
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. (หยุดวันพุธ)
ที่อยู่ : ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 08-7906-4321
เฟซบุ๊ก : Bootcamp Cafe พุทธมณฑลสาย 2

3. Sugar House Cafe กรุงเทพฯ

คาเฟ่ สไตล์แคมปิ้ง เหมาะสำหรับเป็นที่นั่งพักเพลิน ๆ สำหรับคอกาแฟ เพราะเอาใจด้วยเมนูกาแฟหลากหลาย อย่าง Cold brew coffee กาแฟสกัดเย็น เมล็ดสายพันธุ์ดี หรือจะเป็นกาแฟดริป ชงออกมาได้กลมกล่อม แถมยังปลุกความสดชื่นขึ้นมาแบบทันตาเห็น ยิ่งถ้าวันไหนอากาศดี ๆ จะยิ่งเพิ่มอรรถรสการกินกาแฟให้เจ๋งยิ่งกว่าเดิม

ช่องทางการสั่ง : Line @sugarhousecafe, Robinhood
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
ที่อยู่ : ซอยลาดพร้าว 101 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 08-6550-6257
เฟซบุ๊ก : Sugar House Cafe and Craft Beer

4. Wai Jai Cafe จังหวัดนนทบุรี

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายแคมป์จะต้องชอบที่นี่แน่ ๆ กาแฟร้านแนว slowbar สุดชิล ล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ คอยทำหน้าที่ให้ความร่มเงา ยิ่งทำให้คนที่มานั่งรุ้สึกชิลมากกว่าเดิมขึ้นอีกหลายเท่าตัว โดยเฉพาะเมื่อสั่ง Iced Moccha Americano กับ Iced Caramel Macchiato จากเมล็ดเป็น Brazil Santos ชงออกมาแล้วอร่อยเข้มข้น บวกกับบรรยากาศดี ๆ บอกเลยว่าแก้วนี้กลมกล่อมมาก ๆ

เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.
ที่อยู่ : ตำบลปลายบาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 08-6733-7011
เฟซบุ๊ก : Wai Jai Cafe

5. Sam-Raan-Jai Coffee จังหวัดสมุทรสงคราม

ร้านคาเฟ่สไตล์ชาวสวนบวกกับแคมปิ้ง เรียบง่าย แต่ลงตัว ตั้งอยู่ภายในสวนลิ้นจี่ สวนมะพร้าว เรียกได้ว่าชิลเว่อร์ แถมยังมีลมพัดมาเพลิน ๆ พร้อมเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น อัญชันน้ำผึ้งมะนาว, อเมริกาโน่อัญชันน้ำผึ้งมะนาว, กาแฟน้ำมะพร้าวหอม รวมถึงยังมีกองทัพเหล่ากาแฟ COLD BREW เรียกความสดชื่นแก่ลูกค้าที่เข้ามาเช็กอิน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.00 น.
ที่อยู่ : หมู่ 1 ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จัหวัดสมุทรสงคราม
เบอร์โทรศัพท์ : 08-2536-1798
เฟซบุ๊ก : Sam-Raan-Jai Coffee

6. Blackdog coffeebar จังหวัดระยอง

คาเฟ่สไตล์แคมปิ้ง ตกแต่งโทนสีดำ ให้ฟีลเหมือนตั้งแคมป์กลางป่า เมื่อมาถึงแล้ว พลาดไม่ได้กับการลิ้มลอง กาแฟผสมส้มยูซุ ลองได้สัมผัส จะรู้สึกได้ถึงความละมุนที่เข้ากันมาก ๆ ชงมาแบบกลมกล่อม ไม่หวานเกินไป และไม่เปรี้ยวจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีชา ขนมคุ้กกี้ และบราวนี่ เชื่อเลยว่าแต่ละเมนูอร่อย เข้ากันอย่างพอดีกับเครื่องดื่มสุด ๆ ไปเลย

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. (หยุดวันอังคาร)
ที่อยู่ : ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
เบอร์โทรศัพท์ : 08-9252-4683
เฟซบุ๊ก : Blackdog coffeebar

7. Campfire Cafe Khao Yai จังหวัดนครราชสีมา

ลองใครมาเช็กอินที่นี่ จะรู้สึกเลยว่าเหมือนหลุดเข้ามาอยู่อีกโลกหนึ่ง ที่ทั้งสงบ เป็นส่วนตัว และล้อมรอบธรรมชาติสวย ในส่วนของคาเฟ่ แสนเก๋ด้วยลักษณะบ้านพักตากอากาศหลังเก่าที่ถูกนำมารีโนเวทใหม่ ซึ่งพร้อมด้วยเมนูเครื่องดื่มและอาหารมากมาย จะเป็นเมนูกินเล่นอย่างเบอร์เกอร์ หรือจะเป็นเมนูหลักจานใหญ่ ก็มีให้เลือกเพียบ นั่งชิลในสวนท่ามกลางบรรยากาศแคมปิ้ง ซึ่งมีลานกางเต็นท์ไว้ให้บริการไว้พักค้างคืน เคล้าเสียงเพลงเบา ๆ ยิ่งทำให้ที่นี่มีความพิเศษ ทำเอาคุณหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น

ช่องทางการสั่ง : @campfirecafe
  เวลาเปิด-ปิด : วันพฤหัสบดี-จันทร์ ตั้งแต่เวลา 10.30-20.00 น. (หยุดวันอังคารและพุธ)
          ที่อยู่ : ถนนธนะรัชต์ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
          เบอร์โทรศัพท์ : 08-0074-2208
          เฟซบุ๊ก : Campfire Cafe Khao Yai แคมป์ไฟ คาเฟ่ เขาใหญ่

8. Jolly Café จังหวัดเพชรบูรณ์

หนึ่งในร้านคาเฟ่ดังประจำเขาค้อ สวยดูดีด้วยการตกแต่งอย่างมีสไตล์ ให้อารมณ์คันทรีนิด ๆ หลากหลายโซนที่นั่งให้เลือกแบบไม่ซ้ำ จะนั่งข้างในก็ดี ข้างนอกก็สวย รวมถึงยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้เลือกโพสท่าถ่ายอยู่เต็มไปหมด รวมถึงยังมีแคมป์โบฮีเมียน ก็ตกแต่งพร็อพไว้ครบถ้วน จนกลายเป็นอีกหนึ่งที่ถ่ายรูปยอดฮิตที่ไม่ว่าใครเห็นก็อยากจะมีรูปสวย ๆ เก็บไว้ ซึ่งในแต่ละช่วงทางร้านก็จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนพร็อพแตกต่างกันไป ยิ่งสร้างสีสันความสนุกสำหรับการมาเช็กอินที่นี่เพิ่มอีกหลายเท่าตัว

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30-20.00 น.
ที่อยู่ : หมู่ 2 ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เบอร์โทรศัพท์ : 095 196 2285
เฟซบุ๊ก : Jolly Café

9. Camping Calling – Slow Bar Cafe’ จังหวัดสุโขทัย

ชิล ๆ ไปกับแคมปิ้งคาเฟ่ โดยเนมิตตัวบ้านให้เป็นแค้มป์ขนาดใหญ่ เน้นโทนดำ ดูแล้วก็จัดว่ามินิมอลเข้าตา มีมุมให้เลือกนั่งพักผ่อนทั้งในร้านและนอกร้าน ล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ คอยให้ร่มเงาและสร้างบรรยากาศเสมือนว่าเรามานอนแค้มป์จริง ๆ พร้อมด้วยเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ อย่างกาแฟดริป และเมนูขนมแสนอร่อย ไว้รอพร้อมเสิร์ฟอีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
ที่อยู่ : ตำบลปากแคว อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
เบอร์โทรศัพท์ : 09-5642-1515
เฟซบุ๊ก : Camping Calling – Slow Bar Cafe’

เห็นความเก๋แต่ละร้านแบบนี้แล้ว ชักอยากจะชวนคนข้าง ๆ ออกไปเช็กอินเดี๋ยวนี้เลยใช่ไหม ? แต่จะให้ดีเตรียมเมมโมรี่กล้องเอาไว้ให้พร้อม เพราะบอกไว้ก่อนเลยว่า คุณจะได้รูปกลับไปเยอะมาก ๆ เตรียมทยอยลงโซเชียลได้แบบเต็มเหนี่ยว