6 สูตรเค้กแยม หวานอมเปรี้ยวยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลินแถมสูตรชีสพายสุดฮิต

แจกของหวานรับยามบ่ายกับเมนูเค้กแยม สูตรขนมเคี้ยวนุ่มมาพร้อมความเปรี้ยวอมหวาน แถมวิธีทำชีสพายสุดคลาสสิก
สืบเนื่องจากคนพิเศษแอบเบื่อเมนูเค้กครีมสดเพราะเลี่ยนเกินไปหน่อย ลองเปลี่ยนมาทำเค้กแยมกันดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเค้กแยม เช่น เค้กแยมส้ม เค้กแยมผลไม้ เค้กแยมสตรอว์เบอร์รี พ่วงวิธีทำบลูเบอร์รีชีสพายและสตรอว์เบอร์รีชีสพายด้วย

1. เค้กส้ม

แอบตื่นเต้นที่เห็นเมนูเค้กส้ม สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ความพิเศษคือเค้กเป็นรูปลูกส้มสุดเก๋ แถมแต่งด้วยใบไม้จริง ลองทำดูกันเลยดีไหม

ส่วนผสม เค้กสปันจ์ส้ม (ประมาณ 10-12 ลูก)

 

  • ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 3 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 70-80 กรัม
  • สารเสริมคุณภาพสำหรับทำขนมเอสพี (SP) หรือโอวาเล็ต (Ovalet) 10 กรัม
  • นมสด หรือนมจืด 40 กรัม
  • น้ำส้มคั้น หรือน้ำเปล่า 40 กรัม
  • กลิ่นส้ม 1/2 ช้อนชา
  • สีผสมอาหารสีส้ม
  • แป้งเค้ก 100 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เนยเค็มละลาย 80 กรัม

ส่วนผสม แยมส้มหน้านิ่ม (ซอสส้ม)

  • น้ำเปล่า 300 กรัม
  • น้ำส้มซันควิก 70 กรัม
  • น้ำตาลทราย 110 กรัม
  • แป้งข้าวโพด หรือแป้งกวนไส้ 25 กรัม
  • เนยสดรสเค็ม 30 กรัม
  • สีผสมอาหารสีส้ม

วิธีทำเค้กลูกส้ม

  1. ตีไข่ น้ำตาลทราย กับสารเสริมคุณภาพจนขึ้นฟู
  2. เติมนม น้ำส้ม กลิ่นส้ม และสีผสมอาหารสีส้ม ประมาณ 15-20 หยด หรือตามชอบ ลงไปตีต่อจนส่วนผสมทั้งหมดขึ้นฟูเบา สังเกตจากเวลายกหัวตะกร้อขึ้น ส่วนผสมหยดลงโถแล้วไม่จมลงไป จะลอยบนผิวด้านบน (ภาพสุดท้าย)
  3. หลังจากนั้นใส่แป้งที่ร่อนพร้อมผงฟูลงไป (ให้ร่อนแป้งสัก 2 รอบเพื่อความนุ่มฟู) ตะล่อมเบา ๆ ก่อนเปิดเครื่อง เพราะถ้าเปิดเครื่องเลยแป้งจะฟุ้งค่ะ หลังจากนั้นก็ตีต่อด้วยความเร็วปานกลางสัก 2-3 นาที ลองเช็กก้นโถว่ามีแป้งนอนก้นไหม ถ้าไม่มีก็ค่อย ๆ เติมเนยละลายที่พักจนอุ่นลงไปทีละนิด อย่าเทพรวดเดียวนะคะ เพราะจะตีผสมกันยาก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เค้กเป็นไตได้ พอใส่เนยละลายหมดแล้วก็ตีต่ออีกสัก 3 นาที
  4. ทาเนยขาวให้ทั่วพิมพ์ เตรียมไว้ ตักแป้งเค้กใส่พิมพ์เค้กลูกส้ม ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ หรือเต็มพิมพ์ หลังจากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม ประมาณ 20-25 นาที พออบเสร็จเอาออกมาจากเตาแล้วก็คว่ำลงบนตะแกรง พักทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วค่อยแกะพิมพ์ซิลิโคนออก หลังจากนั้นก็พักให้เย็นสนิทบนตะแกรง
  5. ระหว่างรอเค้กให้เย็นก็มาทำซอสส้มกัน โดยผสมน้ำ น้ำส้มซันควิก และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพดลงไปตีผสมให้เข้ากัน ยกขึ้นเตา เปิดไฟอ่อน-กลาง คนเรื่อย ๆ จนซอสสีเริ่มใสและข้นขึ้น ปิดเตา ใส่เนยลงไปคนให้เข้ากัน เติมสีผสมอาหารสีส้ม ประมาณ 10-15 หยด หรือตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็นำมาราดบนเค้กส้ม ราดสัก 2 รอบ แล้วก็ยกถาดเคาะเบา ๆ เพื่อให้ผิวส้มเรียบเสมอกัน จากนั้นพักให้เซตตัวประมาณ 20 นาที พอเซตตัวแล้วก็ตกแต่งด้วยใบแก้วหรือใบมะยม

2. เค้กแยมไมโครเวฟ

ใครมีไมโครเวฟปัดฝุ่นรอเลย จะได้เอามาอบเค้กแยมไมโครเวฟ สูตรจาก นิตยสาร @Kitchen  เนื้อเค้กโฮมเมดหอมเนยใส่แยมตามชอบ ใครจะบีบครีมสดหรือท็อปด้วยผลไม้ก็ตามสบายเลยจ้า

ส่วนผสม เค้กแยม

  • เนยละลาย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 6 ช้อนโต๊ะ
  • เนยละลาย
  • น้ำตาลทราย
  • แยมตามชอบ

 

วิธีทำเค้กแยม
1. ผสมเนยละลาย ไข่ไก่ นมสด น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลาเล็กน้อย คนให้เข้ากัน
2. ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไปผสมกับส่วนผสมเนย คนให้เข้ากัน
3. ทาพิมพ์ด้วยเนยละลาย แล้วโรยน้ำตาลทรายให้ทั่ว
4. ตักส่วนผสมแป้งใส่ลงไป 2/3 ของถ้วย แล้วตักแยมใส่ลงไปตรงกลาง 1-2 ช้อนชา แล้วนำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที ถ้ายังไม่สุกให้ใส่ต่อไปครั้งละ 30 วินาที

3. เค้กแยมสตรอว์เบอร์รีไมโครเวฟ

มาต่อกันด้วยอีกวิธีทำเค้กแยมไมโครเวฟนั่นคือ เค้กแยมสตรอว์เบอร์รีไมโครเวฟ สูตรจาก คุณ 13 Destinations สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งเค้กอบจนสุกแล้วเอาออกมาผ่าครึ่งบีบครีมและแต่งด้วยผลไม้สด

ส่วนผสม เค้กไมโครเวฟ

  • ไข่ 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 8 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์  8 ช้อนโต๊ะ (หรือแป้งเค้ก)
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • ผงวานิลลา 1 ช้อนชา
  • เนยละลาย 6 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำมันพืช)
  • น้ำส้ม
  • วิปปิ้งครีมสำเร็จรูป
  • แยมสตรอว์เบอร์รี (หรือรสอื่นตามชอบ)
  • ผลไม้ตามชอบ (สตรอร์เบอร์รีสด,ราสป์เบอร์รีสด)

วิธีทำเค้กไมโครเวฟ

  1. ตีผสมไข่ไก่กับน้ำตาลด้วยตะกร้อมือพอให้เข้ากันและน้ำตาลทรายละลาย เติมแป้ง ผงฟู และผงวานิลลาลงไปตีให้เข้ากัน ใส่เนยละลายลงไปตีให้เข้ากันอีกครั้ง
  2. ทาเนยในถ้วยสำหรับนำเข้าไมโครเวฟและโรยแป้งลงไป ตักส่วนผสมใส่ถ้วย นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟร้อนปานกลาง อบนานประมาณ 3 นาที (เคล็ดลับ : ทาเนยและโรยแป้งสาลีที่ถ้วยก่อน จะช่วยให้นำเค้กออกจากตัวถ้วยได้ง่ายขึ้น)
  3. นำเค้กออกจากไมโครเวฟ พักไว้จนเย็น จากนั้นนำออกจากถ้วยแล้วลอกแป้งส่วนที่ไม่สวยทิ้งไป ตัดแบ่งครึ่งเค้ก แล้วพรมน้ำส้มลงไปให้ทั่ว เตรียมไว้ (เคล็ดลับ : ให้นำน้ำส้มมาพรมตัวเค้กให้ทั่วก่อนที่จะแต่งหน้าเค้ก จะทำให้เค้กไม่แข็งและนุ่มขึ้น)
  4. บีบวิปปิ้งครีมลงบนเค้กแผ่นที่ 1 ตามด้วยแยมและผลไม้สดหั่นเป็นชิ้น ๆ จากนั้นนำเค้กอีกแผ่นมาประกบแล้วบีบวิปปิ้งครีมทับลงไป แต่งด้วยผลไม้สดอีกครั้งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

4. บลูเบอร์รีชีสพาย

ใครมีแยมบลูเบอร์รีเหลือ ๆ จับมาทำเมนูบลูเบอร์รีชีสพาย สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ฐานทำจากแครกเกอร์ผสมกับเนย เทครีมชีสลงไปแล้วท็อปด้วยแยม

 

ส่วนผสม ฐานพาย

  • แครกเกอร์ 90 กรัม
  • เนยเค็มละลาย 60 กรัม

 

ส่วนผสม ชีสเค้ก

  • เจลาตินแบบแผ่น (แผ่นละ 5 กรัม) 1 แผ่น
  • น้ำตาลทรายขาว 40 กรัม
  • น้ำ 15 กรัม
  • ไข่แดง 2 ฟอง
  • ครีมชีส 125 กรัม
  • น้ำมะนาว 20 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 100 กรัม
  • แยมบลูเบอร์รี

วิธีทำบลูเบอร์รีชีสพาย

  1. บดแครกเกอร์ให้ละเอียด ใครมีเครื่องบดใช้ได้เลย ใครไม่มีก็เอาใส่ถุงทุบให้ละเอียดมากที่สุด ถ้าหยาบมากไปตอนกินฐานจะแตก ใส่เนยละลายลงในแครกเกอร์บด ผสมให้เข้ากัน
  2. นำพิมพ์แบบที่ถอดก้นได้ ทาด้วยเนยบาง ๆ ถ้าใครจะใส่แบบกระทงฟอยล์ข้ามขั้นนี้ไปเลย นำฐานแครกเกอร์บดกรุลงในพิมพ์หนาประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วกดให้แน่น ใครใช้กระทงฟอยล์ก็ทำแบบเดียวกันเลย เสร็จแล้วก็เอาไปแช่ช่องแข็ง 30 นาที
  3. แช่เจลาตินแบบแผ่นในน้ำเย็น เพื่อให้เจลาตินพองตัว ประมาณ 20-30 นาที
  4. ทำน้ำเชื่อม โดยละลายน้ำกับน้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือดแล้วยกลง
  5. แยกไข่แดง 2 ฟอง ใส่น้ำเชื่อมที่เดือดแล้วลงในไข่แดงทันที อย่าทิ้งไว้นาน แล้วตีไข่แดงไปตลอดช่วงใส่น้ำเชื่อม ขั้นตอนนี้จะทำให้ไข่ค่อย ๆ สุก การที่ค่อย ๆ ใส่จะทำให้ไข่ไม่เป็นลิ่ม ถ้าน้ำเชื่อมไม่เดือด ไข่แดงจะคาว ตีจนไข่แดงกลายเป็นสีเหลืองนวลแล้วใส่ครีมชีสลงไป ตีให้เข้ากัน
  6. ตีวิปปิ้งครีมในอ่างผสมอีกใบ ตีจนตั้งยอดอ่อน แล้วพักไว้
  7. นำเจลาตินที่อิ่มน้ำแล้วเข้าไมโครเวฟ 30 วินาที หาอะไรปิดภาชนะด้วย ไม่งั้นเจลาตินจะแห้งติดภาชนะเลย
  8. ผสมส่วนผสมไข่แดงกับส่วนผสมวิปปิ้งครีม ค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน ใส่เจลาตินที่ละลายแล้วคนให้เขากัน ใส่น้ำมะนาว (ถ้าใครใช้น้ำเลมอน สามารถเพิ่มปริมาตรได้ถึง 30 กรัม)
  9. เทครีมชีสลงในพิมพ์ที่กรุครัชไว้แล้ว เกลี่ยหน้าให้เรียบ เคาะพิมพ์เล็กน้อย นำไปแช่เย็นช่องธรรมดา 2-3 ชั่วโมง เมื่อขนมเซตตัวแล้วค่อย ๆ ถอดออกจากพิมพ์ โดยวางพิมพ์บนแก้วน้ำแล้วค่อย ๆ ดึงพิมพ์ลง แต่งหน้าด้วยแยมบลูเบอร์รี

5. ชีสพายสตรอว์เบอร์รี

หลังจากทำบลูเบอร์รีชีสพายไปแล้ว ลองเปลี่ยนมาทำชีสพายสตรอว์เบอร์รี สูตรจาก คุณ Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำครีมชีสและฐานชีสพายแสนง่าย แต่งหน้าด้วยแยมสตรอว์เบอร์รีและเนื้อสตรอว์เบอร์รี

 

ส่วนผสม สตรอว์เบอร์รีชีสพาย (ประมาณ 12 ถ้วยเล็ก)

 

  • แครกเกอร์ 160 กรัม (ขนมปังกรอบ) บดให้ละเอียด
  • เนยจืดละลาย 100 กรัม (สำหรับใส่ในแครกเกอร์)
  • แยมสตรอว์เบอร์รี 1/2 กระป่อง

 

ส่วนผสม ครีมชีส

  • ครีมชีส 250 กรัม
  • นมจืด 3 ช้อนโต๊ะ
  • นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย

วิธีทำสตรอว์เบอร์รีชีสพาย

  1. บดแครกเกอร์ให้ละเอียด ใส่เนยละลายคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยกดให้แน่น และนำเข้าตู้เย็น 10 นาที
  2. ทำครีมชีส โดยใส่นมจืด นมข้นหวาน และโยเกิร์ต คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  3. เมื่อได้ครีมชีสแล้วตักใส่ถ้วยแครกเกอร์ที่เตรียมไว้ แล้วนำแช่ตู้เย็นอีก 5 นาทีหรือจนครีมชีสเซตตัว เมื่อครีมชีสเซตตัวดีแล้วให้นำออกมาแต่งหน้าด้วยแยมสตรอว์เบอร์รีและเนื้อสตรอว์เบอร์รีในแยม เสร็จเรียบร้อย

6. ชีสพายสตรอว์เบอร์รี (สูตรผลิตภัณฑ์โครงการหลวง)

ปิดท้ายด้วยสตรอว์เบอร์รีชีสพาย สูตรจาก คุณ dearyjung สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใช้ส่วนผสมจากโครงการหลวง ทั้งแครกเกอร์ เนยสด และแยมสตรอว์เบอร์รี ลองทำตามเลยไม่ยากจริง ๆ ค่ะ

ส่วนผสม สตรอว์เบอรรีชีสพาย

  • แครกเกอร์พร้อมชีส ตราจิตรลดา 3 กล่อง
  • เนยสดจิตรลดา ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ
  • แยมสตรอว์เบอร์รี

วิธีทำสตรอว์เบอรรีชีสพาย

  1. ทุบ ตำ บี้ หรือขยี้ก็ได้ ให้แครกเกอร์ที่เป็นแผ่นอยู่นั้น แตกละเอียด
  2. นำเนยสดไปละลายในไมโครเวฟให้ละลายเป็นน้ำมัน ราดเนยละลายลงไปในแครกเกอร์ที่ทุบละเอียดไว้แล้ว พร้อมคลุกเคล้าให้เกาะตัวเป็นกลุ่มก้อน ตักแครกเกอร์ที่ผสมกับเนยละลาย อัดใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ให้แน่น
  3. ตีชีสด้วยไม้พายพลาสติกที่ให้มาในแพ็กจนเป็นลักษณะครีมข้น ๆ แล้วตักใส่ถ้วย ราดแยมสตรอว์เบอร์รีลงไปตามชอบ นำไปแช่เย็นให้แครกเกอร์กับชีสเซตตัวสักครึ่งชั่วโมง

 

แค่เห็นเค้กแยมก็หิวขึ้นมาในบัดดล โดยเฉพาะเค้กส้มที่หน้าตาดีมาก ๆ เหมาะสำหรับเป็นเค้กวันเกิดหรือเค้กเทศกาลต่าง ๆ เหมือนกันนะคะ