10 ร้านชาน่านั่ง ลิ้มรสชาคุณภาพพรีเมียม ท่ามกลางบรรยากาศสุดผ่อนคลาย

รวบรวมร้านชาทั่วไทย เสิร์ฟเฉพาะชาคุณภาพพรีเมียม พร้อมกับขนมหวานหลากหลายสไตล์ ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนยามบ่าย มองหาสถานที่ผ่อนคลาย ต้องไม่พลาดเช็กอินร้านชาเหล่านี้

วัฒนธรรมการดื่มชา ได้แพร่หลายไปทั่วโลก และยังได้ขยายเข้ามายังกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น วันนี้เราจึงมาเอาใจคนรักการดื่มชาสักหน่อย ด้วยการรวบรวมร้านชาน่านั่ง บรรยากาศสบาย ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟแต่ชาคุณภาพดี กับของหวานสุดอร่อย ต้องบอกว่าไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าในเมืองไทยจะมีร้านชาน่านั่งแบบนี้อยู่ด้วย ชาก็ดี บรรยากาศก็เด่น แบบนี้ต้องลองไปเช็กอินกันค่ะ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

1. Peace Oriental Tea House

สาขาพระราม 9 / ภาพจาก เฟซบุ๊ก Peace – Oriental Teahouse

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Peace – Oriental Teahouse

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Peace – Oriental Teahouse

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Peace – Oriental Teahouse

          Peace Oriental Tea House ร้านชาที่จะทำให้คุณตกหลุมรักศาสตร์แห่งชาจนถอนตัวไม่ขึ้น เพียงแค่ก้าวแรกที่ได้สัมผัสกับที่นี่คุณจะหลงใหลในความเงียบสงบและผ่อนคลาย สำหรับสาขาเอกมัย นาทีแรกผู้มาเยือนต้องถอดรองเท้า เพื่อให้ได้ลองปล่อยวางจากความวุ่นวายของเมืองหลวง มาสัมผัสกับความสงบที่แท้จริงในพื้นที่แห่งนี้ ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายในสไตล์มินิมอล มีกาน้ำชาและถ้วยชาหลากหลายแบบวางอยู่บนชั้นอย่างเป็นระเบียบสวยงาม มีมุมให้เลือกนั่งพักผ่อนหลากหลายมุม

Peace Oriental Tea House ให้บริการเสิร์ฟชาแท้ต้นตำรับในสไตล์ตะวันออก มีการคัดสรรวัตถุดิบใบชาที่ดีที่สุดทั้งในประเทศจีนและญี่ปุ่นมาจัดเสิร์ฟให้กับลูกค้า โดย Tea Master ผู้เชี่ยวชาญการชงชา จะชงชาอย่างพิถีพิถัน ผ่านกระบวนการที่ละเอียดอ่อน ละเมียดละไม อันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ที่ต้องการดึงคุณภาพที่ดีที่สุดของใบชาออกมาให้ลูกค้าได้ลิ้มรสอย่างลึกซึ้งที่สุดเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีขนมซากุระโมจิรสชาติหวานนุ่มให้ได้ลิ้มลองไปพร้อมกับชาคุณภาพ และ Tea Master ยังมีการแนะนำถึงการดื่มชาอย่างถูกต้อง พร้อมเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับใบชาอันสนุกสนานให้กับผู้มาเยือนได้ฟังกันอีกด้วย

ที่ตั้ง : สาขาสุขุมวิท 49, สาขาชั้น G ตึก G Tower และสาขาเอกมัย สุขุมวิท 63
 โทรศัพท์ : 09 7267 2626
 เฟซบุ๊ก : Peace – Oriental Teahouse

2.  Dok Mai Thai Salon du Thé

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Museum of Floral Culture

ภาพจาก floralmuseum.comThe Museum of Floral Culture

ภาพจาก floralmuseum.comThe Museum of Floral Culture

ภาพจาก floralmuseum.comThe Museum of Floral Culture

          Salon du The\’ มุมจิบชาสุดผ่อนคลายอีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ ซึ่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศอันหอมหวานของหมู่มวลดอกไม้ และการจัดตกแต่งแบบไทย อีกทั้งยังร่มรื่นไปด้วยสวนสวยสีเขียว บรรยากาศเงียบสงบสุด ๆ มีชาดอกไม้หลากหลายประเภทให้เลือกลิ้มรส ควบคู่ไปกับเซตขนมไทย และโฮมเมดสโคนในราคาเบาสบาย เตรียมใจไปหลงรักได้เลย

 ที่ตั้ง : พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ เลขที่ 315 ถนนสามเสน ซอยองครักษ์ 13 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
 โทรศัพท์ :  0 2669 3633-4
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : floralmuseum.comThe Museum of Floral Culture

3. Bonnie Dolly\’s Tea Room

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bonnie Dolly\’s Tea Room

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bonnie Dolly\’s Tea Room

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Bonnie Dolly\’s Tea Room

ภาพจาก Bonnie Dolly\’s Tea Room

          Bonnie Dolly\’s Tea Room ร้านชาสไตล์อังกฤษที่จะพาคุณไปดื่มด่ำกับวัฒนธรรมการดื่มชาที่แท้จริงของคนอังกฤษ ตัวร้านออกแบบมาอย่างสวยงาม ให้มีบรรยากาศคล้ายร้านชาในลอนดอน เน้นความโปร่งโล่ง เพื่อให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายทั้งบรรยากาศและรสชาติชาคุณภาพดีเยี่ยม ซึ่งมีการสั่งนำเข้าจากประเทศอังกฤษ และมีชาที่ทางร้านเบรนด์เองอีกกว่า 20 ชนิด อีกทั้งยังมีเซตขนมหวานให้เลือกทานควบคู่ไปกับชาอุ่น ๆ หลากหลายแบบ มีเวลายามบ่าย ลองมานั่งจิบชาเบา ๆ ที่นี่กันนะคะ

ที่ตั้ง : 34/1 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
 เวลาเปิด-ปิด : 10.00-19.00 น.
โทรศัพท์ : 08 0080 0003
 เฟซบุ๊ก : Bonnie Dolly\’s Tea Room

4. 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 1823 Tea Lounge & Boutique by Ronnefeldt

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 1823 Tea Lounge & Boutique by Ronnefeldt

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 1823 Tea Lounge & Boutique by Ronnefeldt

ภาพจาก เฟซบุ๊ก 1823 Tea Lounge & Boutique by Ronnefeldt

          1823 Tea Lounge by Ronnefeldt เป็นร้านชาคุณภาพพรีเมียมจากเยอรมนี ที่มาเปิดสาขาแห่งแรกที่เมืองไทย ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษร ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่หรูหราแบบตะวันตก มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เงียบสงบ น่านั่งจิบชาอุ่น ๆ ยามบ่าย ซึ่งนอกจากชาที่เบลนด์มาพิเศษให้เหมาะกับชาวกรุงเทพฯ แล้ว ก็ยังมีขนมหวานอร่อย ๆ ให้ทานควบคู่ไปด้วยกัน พร้อมทั้งมีเมนูอาหารจานเดียวรสชาติอร่อยกลมกล่อมให้เลือกทานกันอีกด้วย

ที่ตั้ง : ชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษร ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-20.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2656 1086
เฟซบุ๊ก : 1823 Tea Lounge & Boutique by Ronnefeldt

5. Lemoncurd Tearoom

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lemoncurd tearoom

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lemoncurd tearoom

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lemoncurd tearoom

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lemoncurd tearoom

          Lemoncurd Tearoom ร้านชาสไตล์น่ารัก ๆ ที่สามารถดึงดูดให้เราหลงใหลตั้งแต่ด้านหน้าร้าน ซึ่งตกแต่งด้วยสีขาวหวานละมุน ยิ่งเมื่อได้เปิดประตูเข้าไปสัมผัสด้านใน ความอบอุ่นก็เข้ามาแทรก เพิ่มเติมความหลงใหลขึ้นไปอีกเท่าตัว การตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสีขาวสไตล์วินเทจ สร้างให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งพักผ่อนและดื่มน้ำชาชิล ๆ ในวันหยุดพักผ่อนได้อย่างดีทีเดียว

Lemoncurd Tearoom เสิร์ฟชาคุณภาพดีจากทั่วโลก มีหลากหลายแบบให้คนรักชาได้เลือกอิ่มเอมไปพร้อม ๆ กับขนมหวานคำเล็กทั้งเลมอนเคิร์ด ครัวซองค์ สโคน ฯลฯ อีกทั้งยังมีเมนูอาหารสุดอร่อยพร้อมเสิร์ฟอีกหลากหลายเมนู

  ที่ตั้ง : ถนนบรรทัดทอง แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
 เวลาเปิด-ปิด : 10.00-20.00 น.
โทรศัพท์ : 08 2459 2662
 เฟซบุ๊ก : Lemoncurd tearoom

6.  Mrigadayavan Tea Room

Mrigadayavan Tea Room ร้านน้ำชาแห่งพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จิบน้ำชาในบรรยากาศสุดผ่อนคลายด้านล่างของเรือนเจ้าพระยารามราฆพ ภายในที่ประทับแปรพระราชฐานอันเก่าแก่และทรงคุณค่า ริมทะเลชะอำ-หัวหินสุดเงียบสงบ ซึ่งเสิร์ฟชาแบบ Mariage Freres ชาที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพดีที่สุดของโลก โดยจะเสิร์ฟพร้อมกับขนมไทยพอดีคำ อีกทั้งยังมีเบเกอรี่สไตล์ยุโรปให้เลือกทานอีกด้วย

ที่ตั้ง : พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
 เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3250 8443-5, 08 1941 2185, 09 0959 1000

7. The\’ Tea House

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The\’ tea house -เต ทีเฮาส์

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The\’ tea house -เต ทีเฮาส์

          The\’ Tea House ร้านชาชื่อดังแห่งหัวหิน ที่มีสไตล์การตกแต่งร้านสุดโดดเด่น ด้วยการเลือกใช้ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสไตล์วินเทจแบบตะวันตก ผสมผสานความโมเดิร์น กลายเป็นความลงตัวที่เรียบหรู สร้างบรรยากาศสุดผ่อนคลายและน่านั่งพักผ่อน ที่นี่เลือกเสิร์ฟชาคุณภาพดีจากประเทศฝรั่งเศส พร้อมกับขนมหวานแบบยุโรปขนาดย่อมสุดอร่อย ที่เข้ากันดีกับชาอุ่น ๆ หอมนุ่ม ส่วนถ้าใครไม่สะดวกไปลิ้มรสที่หัวหิน ตอนนี้เขาก็เปิดสาขาที่ช่างชุ่ย ถนนสิรินธร แล้วค่ะ ไปลิ้มลองกันได้เลย

ที่ตั้ง : สาขาหัวหิน FN Outlet Huahin 1999/9 ถนนเพชรเกษม ตำบลทรายใต้ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี, สาขาช่างชุ่ย ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-19.00 น. (สาขาหัวหิน), 11.00-22.00 น. (สาขาช่างชุ่ย)
โทรศัพท์ : 06 2651 9216 (สาขาหัวหิน)
  เฟซบุ๊ก : The\’ tea house

8. Kalapela

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kalapela

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kalapela

          กาลเพลา ร้านชาเล็ก ๆ ในเมืองเชียงใหม่ กับบรรยากาศสไตล์โอเรียนทอล ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นจีนและความเป็นพื้นเมืองของเชียงใหม่ ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายกำลังดี มีมุมให้เลือกนั่งพักผ่อนทั้งด้านในร้านและสวนสวยสีเขียวด้านหลัง บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว ที่นี่เสิร์ฟชาหลากหลายแบบ โดยเฉพาะชาแบรนด์ Mariage Frères ชาคุณภาพพรีเมียมสัญชาติฝรั่งเศส นำมาชงอย่างพิถีพิถันจนได้รสชาติที่กลมกล่อมละมุนลิ้น อร่อยจนลืมเวลาเลยทีเดียว

ที่ตั้ง : 145/6 ถนนราชดำเนิน อำเภอเมืองเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : 09.30-22.00 น.
  โทรศัพท์ : 08 1634 2245
เฟซบุ๊ก : Kalapela

9. Raming Tea House Siam Celadon

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Raming Tea House Siam Celadon

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Raming Tea House Siam Celadon

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Raming Tea House Siam Celadon

          Raming Tea House Siam Celadon ร้านชาสุดคลาสสิกของเชียงใหม่ ตั้งอยู่ภายในเรือนไม้เก่าแก่สไตล์ตะวันตกแบบเรือนขนมปังขิง ติดกับลำน้ำแม่ข่า ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม เรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและผ่อนคลาย โดยชาที่จัดเสิร์ฟจะมาจากไร่ชาระมิงค์ ซึ่งเป็นพันธุ์ใบชาคุณภาพดีที่ปลูกบนยอดเขาสูงของเชียงใหม่ ซึ่งจะเสิร์ฟร้อน ๆ มาในเครื่องเคลือบสวยหรูแบรนด์ศิลาดล พร้อมกับขนมหวานและอาหารว่างหลากหลายเมนู

 ที่ตั้ง : 158 ถนนท่าแพ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
 โทรศัพท์ : 0 5323 4518, 0 5323 4519
  เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : ramingtea.comRaming Tea House Siam Celadon

10. Tea Tales

Tea Tales  ร้านชาสไตล์ฝรั่งเศสอันขึ้นชื่ออีกหนึ่งแห่งของเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่แลนด์มาร์กสำคัญของเชียงใหม่อย่างย่านนิมมานเหมินทร์ ซอย 9 ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีชาจากทั่วโลกให้เลือกชิมลิ้มลองมากมาย พร้อมกับเมนูขนมหวานสุดอร่อย ที่จะมีมาให้เลือกลิ้มรสไม่ซ้ำแบบ ได้นั่งจิบชาอุ่น ๆ รสชาติกลมกล่อมชุ่มคอและขนมหวานสุดละมุน ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของเชียงใหม่ บอกเลยว่าคุณต้องฟินหนักมาก

ที่ตั้ง : นิมมานเหมินทร์ ซอย 9 อำเภอเมืองเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : 08 9833 0933
โทรศัพท์ : 10.00-22.00 น.
เฟซบุ๊ก : TEA TALES

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของร้านชาน่านั่งในเมืองไทยเท่านั้น ยังมีอีกหลายร้านรอให้คุณได้ไปสัมผัสกับความหอมนุ่มและรสชาติกลมกล่อมของชา ส่วนถ้าใครถูกใจร้านใดข้างต้น ก็ลองแวะไปเช็กอินกันดูนะคะ ใครที่ชอบดื่มชาอยู่แล้ว บอกเลยว่าคุณต้องหลงรักแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
TEA TALESRaming Tea House Siam CeladonKalapelaThe\’ tea houseLemoncurd tearoom1823 Tea Lounge & Boutique by RonnefeldtBonnie Dolly\’s Tea RoomThe Museum of Floral CulturePeace – Oriental Teahouse