10 ร้านคาเฟ่กรุงเทพฯ น่ารักและน่านั่ง ที่ต้องตามไปโดน

ร้านคาเฟ่ กรุงเทพฯ น่ารัก ๆ บรรยากาศดี ที่มีเมนูเครื่องดื่มและอาหารแสนอร่อยพร้อมสรรพ เป็นแหล่งพักผ่อนและที่เที่ยวกรุงเทพฯ สบาย ๆ ชิล ๆ ใครรักและชื่นชอบคาเฟ่สวย ๆ แบบนี้ต้องไม่พลาด

ร้านคาเฟ่ในกรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ไว้สำหรับพักผ่อนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้มีร้านคาเฟ่หรือร้านกาแฟ อยู่แถบจะทุกหัวมุมถนน แต่จะมีคาเฟ่สักกี่ที่ที่เรารู้สึกว่าบรรยากาศดี บริการทั้งอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่มอร่อย ๆ วันนี้เราเลยขอคัดเอาร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ กางแผนที่บอกพิกัดและตำแหน่งให้เพื่อน ๆ ได้ไปตามรอยกัน จะมีที่ไหนโดนใจบ้างนั้น ตามมาดูกัน

1. Flowerpot Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Flowerpot Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Flowerpot Cafe

          คาเฟ่น่านั่ง ย้ำเลยว่า !!! น่านั่งแบบสุด ๆ ตั้งอยู่บริเวณรามคำแหง 21 ตรงข้ามกับสถาบันรัชต์ภาคย์ รับรองว่าหาไม่ยาก เดินทางสะดวก ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในร้าน คุณจะสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นสีเขียวเย็นตาของต้นไม้ ซึ่งทางร้านจงใจใช้นำมาประดับตกแต่ง นอกจากความร่มรื่นแล้วยังช่วยสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือ โซนในร้าน ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น เผยให้เห็นผนังอิฐสีขาว ส่วนใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ อยากนั่งจิบเครื่องดื่มอร่อย ๆ ในสวน ก็ทำได้ตามอัธยาศัย พลาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่มแนะนำอย่าง Milkshake สั่งคู่กับของหวานอย่างเค้กกระถาง สีสันชวนน่าทาน รสชาติความหวานตัดเข้ากันอย่างลงตัว เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่คุณจะได้รับรู้ถึงบรรยากาศความหอมหวานที่ลอยอบอวลตลอดทั้งวัน

   เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.30-18.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
ที่อยู่ : ซอยรามคำแหง 21 ตรงข้ามสถาบันรัชต์ภาคย์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
 เบอร์โทรศัพท์ : 099 469 5916
     เว็บไซต์ :  เฟซบุ๊ก Flowerpot Cafe

2. Unbranded Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Unbranded Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Unbranded Cafe

         ร้านคาเฟ่บริเวณถนนตะนาว อยู่ถัดจากศาลเจ้าพ่อเสือขึ้นไปทางถนนราชดำเนิน บรรยากาศโดยรวมเป็นร้านคาเฟ่สบาย ๆ ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง จึงทำให้ที่ร้านมีลูกค้าต่างแวะเวียนเข้ามาลิ้มลองความอร่อยกันอย่างไม่ขาดสาย มีลูกค้านั่งเรียงเป็นแถวยาวตรงบาร์กาแฟเต็มทุกที่นั่งเกือบตลอดทั้งวัน ภายในร้านตกแต่งอย่างน่ารักด้วยผนังปูกระเบื้อง โดดเด่นด้วยเมนูเครื่องดื่มและชีสเค้กที่แสนอร่อย ที่นุ่มละมุนลิ้นเป็นที่สุด มีทั้ง Raspberry Cheesecake, Vanilla cheesecake พลาดไม่ได้กับซิกเนเจอร์ของทางร้าน Unbranded Cheesecake หรือถ้าเป็นเบเกอรี่ ที่นี่มีครัวซองต์สไตล์ฝรั่งเศสแท้ สโคนที่เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดแยม รับรองว่าลองได้ชิมสักคำ เป็นต้องถูกปากและถูกอารมณ์ จนต้องวกกลับมาอุดหนุนเป็นรอบที่สอง เผลอ ๆ อาจกลายเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ไปโดยไม่รู้ตัว

 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.30-19.30 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
    ที่อยู่ : 180 ถนนตะนาว แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
 เบอร์โทรศัพท์ : 095 254 1044
  เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Unbranded Cafe

3. Plantation Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Plantation Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Plantation Cafe

          ร้านคาเฟ่แสนเก๋ที่เกิดจากการดัดแปลงพื้นที่ของโกดังเก็บผ้า มาปรับเปลี่ยนดัดแปลงเป็นร้านคาเฟ่สไตล์ใหม่ แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะดึงดูดสายตาไปไม่น้อยกว่ารสชาติอาหารและเครื่องดื่มในร้าน เห็นจะเป็นการดีไซน์ออกแบบและตกแต่งภายในร้าน โดยการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสัน เป็นต้นว่าเก้าอี้สีสันฉูดฉาดอย่างสีแดง สีเหลือง สีส้ม นำมาเข้าคู่กับโต๊ะไม้สีดำและสีน้ำตาล ดูเข้ากันอย่างลงตัว พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างโคมไฟ กระถางต้นไม้เก๋ ๆ หรือแม้กระทั่งจักรยาน ก็ถูกนำมาเป็นอุปกรณ์ในการตกแต่งร้านด้วยเช่นกัน เมนูอาหารที่น่าสนใจของที่นี่ได้แก่ Cabonara 5 cheese, BBQ Kurobuta ribs, Quinao salad และพลาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคอกาแฟตัวจริง ซึ่งทางร้านได้คัดเลือกเมล็ดกาแฟอย่างดี รังสรรค์เป็นเมนูกาแฟให้คุณได้ลองเลือกดื่มหลากเมนู เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทานแค่อึกเดียวก็รับรู้ได้โดยทันที

  เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 11.00-23.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-23.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
   ที่อยู่ : ถนนคลองลำเจียก เลียบทางด่วนรามอินทรา บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
   เบอร์โทรศัพท์ : 084 670 6772
       เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Plantation Cafe

4. Chubby Cheeks

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chubby Cheeks Bakery Bangkok

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chubby Cheeks Bakery Bangkok

          หนึ่งในร้านคาเฟ่ซอยอารีย์บรรยากาศน่านั่ง เหมาะสำหรับไว้นั่งชิลสังสรรค์ ใครที่เข้ามาที่นี่เป็นต้องถูกใจในสไตล์การตกแต่งที่น่ารักและอบอุ่น เหมือนว่ากำลังนั่งอยู่ในบ้านของตัวเอง เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นรวมถึงการตกแต่งภายใน เน้นใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะนั่งพื้น เคาน์เตอร์สั่งเมนู ช่วยสร้างบรรยากาศภายในร้านให้ดูอบอุ่น ชวนให้เอาตัวหย่อนลงนั่ง จนลูกค้าหลายคนต้องบ่นอุบว่านั่งแล้วไม่อยากลุกกลับบ้าน พลาดไม่ได้กับเมนูของหวานเด็ดของทางร้าน “Fresh Strawberry Cheesecake” “Chocolate Pot with ice cream” และเมนูเครื่องดื่มเด็ด “Chubby macadamia chocolate” จัดเป็นเมนูที่รับประกันความน่าหม่ำที่ต้องยกนิ้วโป้งให้เลย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
ที่อยู่ : ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ ซอยพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
 เบอร์โทรศัพท์ : 089 121 9700
  เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Chubby Cheeks Bakery Bangkok

5. Cafe Mademoiselle

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Cafe Mademoiselle

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Cafe Mademoiselle

          คาเฟ่เล็ก ๆ น่ารักที่บรรยากาศไม่ธรรมดา แถมพ่วงมาด้วยความอบอุ่นและความอร่อยของอาหารรสชาติแบบฝรั่งเศสแท้ ๆ โดดเด่นด้วยป้ายโลโก้ร้านที่ทำจากไฟนีออนสีขาว ภายในร้านเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย แต่ไม่ทิ้งลายความมีสไตล์เก๋ไก๋ เฟอร์นิเจอร์เน้นโทนไม้สีอุ่น แต่หลายคนก็อดติดใจกับบรรยากาศโซนนอกร้านไม่ได้ โดดเด่นด้วยเก้าอี้นั่งและโต๊ะสีแดง ล้อมรอบด้วยรั้วกำแพงไม้ไผ่ ประดับตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียว ดูตัดกับสีของเฟอร์นิเจอร์ดูดีไม่หยอก เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารเช้าง่าย ๆ เป็นเบเกอรี่ที่อบเองทำเองจากเจ้าของร้าน รับประกันความใหม่และความสดได้ทุกวัน เหล่านี้เป็นความพิถีพิถันในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้ามานักต่อนัก มีทั้งครัวซองต์ แซนด์วิช ซุป สลัด และเครื่องดื่มอร่อย ๆ ใครอยากลองลิ้มชิมความอร่อยรสชาติอาหารฝรั่งเศสแท้ ๆ ต้องไม่พลาดแวะมาที่นี่เด็ดขาด

       เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-16.30 น.
 ที่อยู่ : (บริเวณด้านหลังโรงเรียน St. Andrews School Bangkok) ซอยสาทร 4 บางรัก กรุงเทพฯ
 เบอร์โทรศัพท์ : 092 280 7925, 087 078 3684
 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Cafe Mademoiselle

6. Hey! Coffee (สาขาเกษตร-นวมินทร์)

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Hey! Coffee

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Hey! Coffee

          ร้านคาเฟ่น่ารักและบรรยากาศดี มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 4 สาขา ได้แก่ พระราม 9 ซอย 53, ทางด่วนพระราม 9, ทางด่วนประชาชื่น และเกษตร-นวมินทร์ บรรยากาศโดยรวมของที่นี่เน้นการตกแต่งสไตล์ร้านกาแฟในสวน ที่มองดูแล้วชวนร่มรื่น ตกแต่งด้วยต้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ แต่เจ้าของเขาแอบกระซิบมานิดหนึ่งว่าถ้าใครที่ชอบทานกาแฟเป็นพิเศษ แนะนำให้มาที่สาขาเกษตร-นวมินทร์ เพราะสาขานี้เจ้าของมีความตั้งใจจะให้เป็นร้าน Specialty Coffee ที่นำเสนอกาแฟดี ๆ จากหลายสายพันธุ์ทั่วโลก ลองคุณได้ลิ้มรสดูแล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงคุณภาพของรสชาติกาแฟ และความเอาใจใส่ในทุก ๆ กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นอีกหนึ่งร้านคาเฟ่บรรยากาศดีที่จะทำให้คุณฟินในรสชาติกาแฟอย่างหาตัวจับได้ยากในเมืองไทย

  เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6.30-18.30 น.
   ที่อยู่ : 13/30 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ
   เบอร์โทรศัพท์ : 092-946-0855
     เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Hey! Coffee

7. Little Hideout

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Little Hideout

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Little Hideout

          หนึ่งในร้านคาเฟ่ชื่อดังบริเวณย่านตลิ่งชัน ที่กำลังเป็นที่พูดถึงแบบปากต่อปาก ลองเมื่อเดินเข้ามาในร้าน ลูกค้าจะรับรู้ได้ถึงรายละเอียดและความพิถีพิถันในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นซอกมุมไหนของร้านก็ดูน่านั่งไปเสียหมด การตกแต่งโดยรวมออกมาในรูปแบบ Vintage Style มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีขาวและสีน้ำตาล ประดับด้วยโคมไฟ ที่ช่วยเพิ่มดีเทลการตกแต่งให้ดูเก๋ไก๋มากกว่าเดิม จุดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้ เขาฝากบอกมาว่า อยู่ที่การนำเสนอความใส่ใจ และวัตถุดิบนำเข้าต่าง ๆ ที่เป็นพรีเมียมจริง ๆ รวมไปถึงเมนูขนมเค้กสไตล์ฝรั่งเศส (ที่มีจำหน่ายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น) เมนูขนมหวานแนะนำของที่นี่ ลอง “Oh! New York” เป็น New York Cheesecake พิเศษที่การตกแต่งจานทำให้เห็นว่าเป็นเมือง Newyork จริงๆ น่าจะถูกใจคนทานชีสแน่น ๆ สไตล์ newyork ทานพร้อมกับ raspberry sorbet และ sauce berry รสเปรี้ยวนิดๆ

  เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น. (เค้กเริ่มขาย เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป)
  ที่อยู่ : 172 ถนนฉิมพลี (ปากซอยฉิมพลี 8/1) แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
  เบอร์โทรศัพท์ : 081 821 8795
   เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Little Hideout

8. Blue Dye Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Blue Dye Cafe

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Blue Dye Cafe

          คาเฟ่ที่ตกแต่งอย่างสวยเก๋ด้วยผ้าวัสดุย้อมคราม และของตกแต่งในสไตล์วินเทจต่าง ๆ ตัวร้านค่อนข้างกว้างขวาง ลูกค้าจึงสามารถเลือกนั่งที่โต๊ะไม้ด้านในสวย ๆ หรือจะนั่งข้างนอก ก็แสนจะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่ Blue Dye Cafe มีอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่มให้บริการอย่างเป็นกันเอง เมนูอาหารฝรั่งที่นี่ก็ใช่ว่าจะต้องปีนบันไดทาน รับรองว่าเป็นอาหารฝรั่งฟิวชั่นที่ทานง่าย สามารถดัดแปลงเพิ่มเติมได้ตามใจคนสั่ง มีเมนูแนะนำอย่าง “สปาเกตตีหมูน้ำตก” จานใหญ่แบบจัดเต็มมาก ๆ เมนูเครื่องดื่มกาแฟของที่นี่ใช้เมล็ดกาแฟ Blend จาก C&F ที่คัดสรรมาเพื่ออรรถรสในการดื่มของลูกค้า จนติดใจกลับมาอุดหนุนกลายเป็นลูกค้าประจำของที่นี่กันหลายต่อหลายคน

เวลาเปิด-ปิด : 
วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
ที่อยู่ : สุขุมวิท 36 ซอยนภาศัพท์ 1 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
 เบอร์โทรศัพท์ : 083 714 5333
    เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Blue Dye Cafe

9. The Hamlet

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Hamlet Ari

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Hamlet Ari

          The Hamlet คอมมิวนิตี้มอลล์ที่ตั้งอยู่ในซอยอารีย์ 3 เพื่อใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์สำหรับวันพักผ่อน และชวนสะดุดตาด้วยสวนสวยร่มรื่นในสไตล์อังกฤษไม่เหมือนใคร รายล้อมด้วยบ้านหลังใหญ่สีขาว ที่อัดแน่นไปด้วยมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ ยิ่งถ้ามาในตอนกลางคืน จะมีดนตรีคอยขับกล่อมให้ได้ฟังเพลิน ๆ อีกด้วย พลาดไม่ได้กับโซน Cafe\’ in hamlet ที่ตั้งอยู่ทางโซนด้านหน้า ที่ได้รับการตกแต่งที่ดูอาร์ต ๆ บริการทั้งขนม ชา และกาแฟ ถึงแม้ว่าในร้านอาจจะมีจำนวนที่นั่งไม่มาก แต่ก็ยังมีที่นั่งนอกร้านไว้เป็นที่สำรอง ระหว่างที่คุณดื่มเครื่องดื่ม ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับสวนสไตล์อังกฤษ ที่ชวนมองดูสวยแปลกตาไม่ซ้ำใครที่ไหน ใครที่ลองได้มานั่งชิลที่นี่ รับรองคุณจะต้องเพลิดเพลินไปกับอรรถรสของเครื่องดื่มและบรรยากาศดี ๆ ที่นี่ด้วยแน่นอน

 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.30-20.30 น.
  ที่อยู่ : 31 อารีย์ซอย 3 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพ
   เบอร์โทรศัพท์ : 02 270 3341
เว็บไซต์ : 
 เฟซบุ๊ก The Hamlet Ari

10. Sundays

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sundays

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sundays

          ร้านคาเฟ่เรือนกระจกย่านพระรามเก้า สิ่งที่ทำให้คาเฟ่แห่งนี้ดูโดดเด่นต่างจากที่อื่น น่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางร้าน ซึ่งเป็นความตั้งใจอย่างแรงของเจ้าของที่อยากให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นเหมือนพื้นที่พักผ่อนสบาย ๆ ด้วยเพราะตัวเรือนออกแบบมาในลักษณะของเรือนกระจก ถึงแม้ว่าลูกค้าจะนั่งอยู่ในโซนข้างใน ก็สามารถพักสายตาไปกับต้นไม้สีเขียว ๆ ที่อยู่ข้างนอกร้านได้อย่างสบายตา รวมถึงของตกแต่งเก๋ ๆ อย่างประตูลวดดัด ภาพวาดผลงานศิลปะ โคมไฟ ที่เมื่อนำมาจัดวางแล้วดูเข้ากันอย่างลงตัว เมนูอาหารจานเด็ดของที่นี่ ได้แก่ แอนเจิ้ลแฮร์น้ำพริกนรกมันกุ้ง ข้าวผัดกะเพรามีทบอล ข้าวไก่อบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเมนูของหวานไว้เอาใจ เช่น Brownies n\’ Cream ที่สั่งมาทานคู่กับเครื่องดื่มอร่อย ๆ อย่าง Sea Salt Hot Chocolate บอกเลยว่าจะเป็นการจับคู่ที่ลงตัวแบบสุด ๆ

   เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
    ที่อยู่ : พระราม 9 ซอย 62 (เสรี 8 ซอย 12) เขตสวนหลวง สวนหลวง กรุงเทพฯ
    เบอร์โทรศัพท์ : 099 224 4647
   เว็บไซต์ :  เฟซบุ๊ก Sundays

บอกเลยว่าแต่ละร้านน่ารัก บรรยากาศดี และชวนให้น่านั่งแบบสุด ๆ จะไปกับเพื่อนก็ดี ครอบครัวก็โดน หรือจะเป็นคนรักก็ใช่ เพราะบรรยากาศร้านนอกจากจะมีส่วนช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากวันทำงานหรือเรียนหนังสือที่แสนวุ่นวายลงชั่วขณะ บอกพิกัดร้านถึงขนาดนี้แล้ว อย่าลืมตามไปชิลกันนะคะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2559

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก Sundaysเฟซบุ๊ก The Hamlet Ariเฟซบุ๊ก The Hamlet Ariเฟซบุ๊ก Blue Dye Cafeเฟซบุ๊ก Little Hideoutเฟซบุ๊ก Hey! Coffeeเฟซบุ๊ก Cafe Mademoiselleเฟซบุ๊ก Chubby Cheeks Bakery Bangkokเฟซบุ๊ก Plantation Cafeเฟซบุ๊ก Unbranded Cafeเฟซบุ๊ก Flowerpot Cafe